ยอห์น

  1. 1
  2. 2
  3. 3
  4. 4
  5. 5
  6. 6
  7. 7
  8. 8
  9. 9
  10. 10
  11. 11
  12. 12
  13. 13
  14. 14
  15. 15
  16. 16
  17. 17
  18. 18
  19. 19
  20. 20
  21. 21

ฉบับ1971

ยอห์น 12 ฉบับ1971 (TH1971)

พระ‍เยซู​ทรง‍รับ​การ​ชโลม​ที่​เบ‌ธา‌นี

1. ก่อน​ปัส‌กา​หก​วัน พระ‍เยซู​เสด็จ​มา​ถึง​หมู่‍บ้าน​เบ‌ธา‌นี ซึ่ง​เป็น​ที่​อยู่​ของ​ลา‌ซา‌รัส​ผู้​ซึ่ง​พระ‍องค์​ทรง​ให้​ฟื้น​ขึ้น​จาก​ตาย

2. ที่‍นั่น​เขา​จัด​งาน​เลี้ยง​พระ‍องค์ มารธา​ก็​ปรน‌นิบัติ​อยู่ และ​ลา‌ซา‌รัส​ก็​เป็น​คน‍หนึ่ง​ที่​ร่วม​รับ‍ประ‌ทาน​อา‌หาร​กับ​พระ‍องค์

3. มา‌รีย์​เอา​น้ำ‍มัน​หอม​นารดา​บริ‌สุทธิ์​หนัก​ประ‌มาณ​ครึ่ง​กิโล‌กรัม ซึ่ง​มี​รา‌คา​แพง​มาก​มา​ชโลม​พระ‍บาท​พระ‍เยซู และ​เอา​ผม​ของ​เธอ​เช็ด​พระ‍บาท​ของ​พระ‍องค์ เรือน​ก็​หอม‍ฟุ้ง​ไป​ด้วย​กลิ่น​น้ำ‍มัน​นั้น

4. แต่​สา‌วก​คน‍หนึ่ง​ของ​พระ‍องค์ ชื่อ​ยู‌ดาส​อิส‌คา‌ริ‌โอท (คือ​คน​ที่​จะ​อา‌ยัด​พระ‍องค์​ไว้) พูด​ว่า

5. “เหตุ​ไฉน​จึง​ไม่​ขาย​น้ำ‍มัน​นั้น​เป็น​เงิน​สัก​สาม‍ร้อย​เด‌นา‌ริ‌อัน แล้ว​แจก​ให้​แก่​คน‍จน”

6. เขา​พูด​อย่าง​นั้น​มิ​ใช่​เพราะ​เขา​เอา‍ใจ‍ใส่​คน‍จน แต่​เพราะ​เขา​เป็น​คน​หัว​ขโมย คือ​เขา​ได้​ถือ​กล่อง​เก็บ​เงิน​และ​ได้​ยัก‍ยอก​เงิน​ที่​ใส่​ไว้​ใน​นั้น​ไป

7. พระ‍เยซู​ตรัส​ว่า “ช่าง‍เขา​เถิด​ให้​เขา​เก็บ​น้ำ‍มัน​นี้​ไว้​จน​ถึง​วัน​ฝัง‍ศพ​ของ​เรา

8. เพราะ‍ว่า​มี​คน‍จน​อยู่​กับ​ท่าน​เสมอ แต่​เรา​จะ​ไม่​อยู่​กับ​ท่าน​เสมอ”

การ​ปอง‍ร้าย​ลา‌ซา‌รัส

9. ฝ่าย​พวก‍ยิว​เป็น​อัน​มาก​รู้​ว่า​พระ‍องค์​ประ‌ทับ​อยู่​ที่​นั่น จึง​มา​เฝ้า​พระ‍องค์ ไม่‍ใช่​เพราะ​เห็น​แก่​พระ‍เยซู​เท่า​นั้น แต่​อยาก​เห็น​ลา‌ซา‌รัส​ผู้​ซึ่ง​พระ‍องค์​ได้​ทรง​ให้​ฟื้น​ขึ้น​มา​จาก​ตาย​ด้วย

10. ดัง‍นั้น​พวก​มหา‍ปุ‌โร‌หิต​จึง​คิด​จะ​ฆ่า​ลา‌ซา‌รัส​เสีย​ด้วย

11. เพราะ​ลา‌ซา‌รัส​เป็น​ต้น‍เหตุ​ที่​ทำ​ให้​พวก‍ยิว​หลาย​คน​ออก‍จาก​พวก​เขา​ไป​เชื่อ‍ถือ​พระ‍เยซู

เสด็จ​เข้า​กรุง​เย‌รู‌ซา‌เล็ม​อย่าง​ผู้​พิชิต

12. วัน​รุ่ง‍ขึ้น​เมื่อ​คน​เป็น​อัน​มาก​ที่​มา​ใน​งาน​เทศ‌กาล​นั้น ได้​ยิน​ว่า​พระ‍เยซู​เสด็จ​มา​ถึง​กรุง​เย‌รู‌ซา‌เล็ม

13. เขา​ก็​พา​กัน​ถือ​ทาง​อินท‌ผลัม​ออก​ไป​ต้อน‍รับ​พระ‍องค์ ร้อง​ว่า “โฮ‌ซัน‌นา ขอ​ให้​พระ‍องค์​ผู้​เสด็จ​มา​ใน​พระ‍นาม​ของ​องค์​พระ‍ผู้​เป็น​เจ้า คือ พระ‍มหา‍กษัตริย์​แห่ง​อิส‌รา‌เอล ทรง​พระ‍เจริญ”

14. และ​พระ‍เยซู​ทรง‍พบ​ลูก‍ลา​ตัว​หนึ่ง จึง​ทรง‍ลา​นั้น​เหมือน​ดัง​ที่​มี​คำ​เขียน​ไว้​ว่า

15. “ธิดา​แห่ง​ศิโยน​เอ๋ย อย่า​กลัว​เลย จง​ดู กษัตริย์​ของ​เธอ​ทรง​ลูก‍ลา​เสด็จ​มา”

16. ที‍แรก​พวก​สา‌วก​ของ​พระ‍องค์​ไม่​เข้า‍ใจ​ใน​เหตุ​การณ์​นั้น แต่​เมื่อ​พระ‍เยซู​ทรง​ประ‌สบ​เกียรติ​กิจ​แล้ว เขา​จึง​ระลึก​ได้​ว่า​มี​คำ​เช่น​นั้น​เขียน​ไว้​กล่าว​ถึง​พระ‍องค์ และ​คน​ทั้ง‍หลาย​ได้​กระ‌ทำ​อย่าง​นั้น​ถวาย​พระ‍องค์

17. คน​ทั้ง‍ปวง​ซึ่ง​ได้​อยู่​กับ​พระ‍องค์ เมื่อ​พระ‍องค์​ได้​ทรง​เรียก​ลา‌ซา‌รัส​ให้​ออก​มา​จาก​อุโมงค์​ฝัง‍ศพ และ​ทรง​ให้​เขา​ฟื้น​ขึ้น​มา​จาก​ความ​ตาย​ก็​เป็น​พยาน ใน​สิ่ง​ที่​เขา​ได้​ยิน​และ​ได้​เห็น

18. เหตุ​ที่​ประ‌ชา‍ชน​พา​กัน​ไป​หา​พระ‍องค์ ก็​เพราะ​เขา​ได้​ยิน​ว่า​พระ‍องค์​ทรง​กระ‌ทำ​หมาย​สำ‌คัญ​นั้น

19. พวก​ฟา‌ริสี​จึง​พูด​กัน​ว่า “ท่าน​เห็น​ไหม​ว่า​ท่าน​ทำ​อะไร​ไม่‍ได้​เลย ดู​ซิ โลก​ตาม​เขา​ไป​หมด​แล้ว”

พวก​ต่าง​ชาติ​บาง‍คน​แสวง‍หา​พระ‍เยซู

20. ใน​หมู่​คน‍ทั้ง‍หลาย​ที่​ขึ้น​ไป​นมัส‌การ​ใน​งาน​เทศ‌กาล​นั้น มี​พวก​กรีก​บ้าง

21. พวก​กรีก​นั้น​จึง​ไป​หา​ฟีลิป​ซึ่ง​มา​จาก​หมู่‍บ้าน​เบธ‌ไซ‌ดา​ใน​แคว้น​กา‌ลิลี แล้ว​พูด​กับ​เขา​ว่า “ท่าน​เจ้า‍ข้า พวก​ข้าพ‌เจ้า​จะ​ใคร่​เห็น​พระ‍เยซู”

22. ฟีลิป​จึง​ไป​บอก​อัน‌ดรูว์ แล้ว​อัน‌ดรูว์​กับ​ฟีลิป​จึง​ไป​ทูล​พระ‍เยซู

23. และ​พระ‍เยซู​ตรัส​ตอบ​เขา​ว่า “ถึง​เวลา​แล้ว​ที่​บุตร‍มนุษย์​จะ​ประ‌สบ​เกียรติ‍กิจ

24. เรา​บอก​ความ‍จริง​แก่​ท่าน​ว่า ถ้า​เมล็ด​ข้าว​ไม่​ได้​ตก‍ลง​ไป​ใน​ดิน​และ​เปื่อย‍เน่า​ไป ก็​จะ​คง​อยู่​เป็น​เมล็ด​เดียว แต่​ถ้า​เปื่อย‍เน่า​ไป​แล้ว ก็​จะ​งอก‍ขึ้น​เกิด​ผล​มาก

25. ผู้‍ใด​ที่​รัก​ชีวิต​ของ​ตน​ก็​ต้อง​เสีย​ชีวิต และ​ผู้​ที่​ชัง​ชีวิต​ของ​ตน​ใน​โลก​นี้ ก็​จะ​ธำ‌รง​ชีวิต​นั้น​ไว้​นิรันดร์

26. ถ้า​ผู้‍ใด​จะ​รับ‍ใช้​เรา ผู้‍นั้น​ก็​ต้อง​ตาม​เรา​มา และ​เรา​อยู่​ที่‍ไหน​ผู้​รับ‍ใช้​ของ​เรา​จะ​อยู่​ที่‍นั่น​ด้วย ถ้า​ผู้‍ใด​รับ‍ใช้​เรา พระ‍บิดา​ก็​จะ​ทรง​ประ‌ทาน​เกียรติ​แก่​ผู้‍นั้น

บุตร‍มนุษย์​จะ​ต้อง​ถูก​ยก​ขึ้น

27. “บัด‍นี้​จิต​ใจ​ของ​เรา​เป็น​ทุกข์​และ​เรา​จะ​พูด​อย่าง‍ไร จะ​ว่า ‘ข้า‍แต่​พระ‍บิดา ขอ​ทรง​โปรด​ช่วย​ข้า‍พระ‍องค์​ให้​พ้น​จากการย์​แห่ง​กาล​นี้17’ อย่าง​นั้น​หรือ หา​มิ‍ได้ เพราะ​ด้วย​ความ​ประ‌สงค์​นี้​เอง เรา​จึง​มา​ถึง​การย์​แห่ง​กาล‍นี้

28. ข้า‍แต่​พระ‍บิดา ขอ​ให้​พระ‍นาม​ของ​พระ‍องค์​จง​ได้​รับ​เกียรติ” แล้ว​ก็​มี​พระ‍สุรเสียง​ดัง​มา​จาก​ฟ้า​ว่า “เรา​ได้​ให้​รับ​เกียรติ​แล้ว และ​เรา​จะ​ให้​รับ​เกียรติ​อีก”

29. คน​ทั้ง‍หลาย​ที่​ยืน​อยู่​ที่​นั่น​ได้​ยิน​เสียง​นั้น​และ​พูด​ว่า​ฟ้า‍ร้อง คน​อื่นๆ​ก็​พูด​ว่า “ทูต‍สวรรค์​องค์​หนึ่ง​ได้​กล่าว​กับ​พระ‍องค์”

30. พระ‍เยซู​ตรัส​ตอบ​ว่า “เสียง​นั้น​เกิด​ขึ้น​เพื่อ​ท่าน​ทั้ง‍หลาย ไม่​ใช่​เพื่อ​เรา

31. บัด‍นี้​ถึง​เวลา​ที่​จะ​พิพาก‌ษา​โลก​นี้​แล้ว เดี๋ยว‍นี้​เจ้า​โลก​นี้​จะ​ถูก​กำ‌จัด​ออก​ไป

32. เมื่อ​เรา​ถูก​ยก​ขึ้น​จาก​แผ่น‍ดิน​โลก​แล้ว เรา​ก็​จะ​ชัก​นำ​คน​เป็น​อัน​มาก​ให้​มา​หา​เรา”

33. พระ‍องค์​ตรัส​เช่น​นั้น เพื่อ​สำ‌แดง​ว่า พระ‍องค์​จะ​สิ้น​พระ‍ชนม์​อย่าง‍ไร

34. คน​ทั้ง‍หลาย​จึง​ทูล​พระ‍องค์​ว่า “ข้าพ‌เจ้า​ทราบ​จาก​พระ‍ธรรม​ว่า พระ‍คริสต์​จะ​อยู่​เป็น​นิตย์ เหตุ​ไฉน​ท่าน​จึง​ว่า ‘บุตร‍มนุษย์​จะ​ต้อง​ถูก​ยก​ขึ้น’ บุตร‍มนุษย์​นั้น คือ​ผู้‍ใด​เล่า”

35. พระ‍เยซู​ตรัส​กับ​เขา​ว่า “ความ​สว่าง​จะ​อยู่​ไป​กับ​ท่าน​ทั้ง‍หลาย​อีก​หน่อย​หนึ่ง เมื่อ​ยัง​มี​ความ‍สว่าง​อยู่​ก็​จง​เดิน​ไป​เถิด เกรง‍ว่า​ความ​มืด​จะ​ตาม​มา​ทัน​ท่าน ผู้​ที่​เดิน​อยู่​ใน​ความ​มืด ย่อม​ไม่​รู้​ว่า​ตน​ไป​ทาง​ไหน

36. เมื่อ​ท่าน​ทั้ง‍หลาย​มี​ความ​สว่าง ก็​จง​วาง​ใจ​ใน​ความ​สว่าง​นั้น เพื่อ​จะ​ได้​เป็น​ลูก​แห่ง​ความ​สว่าง”เมื่อ​พระ‍เยซู​ตรัส​ดัง​นั้น​แล้ว​ก็​ทรง‍จาก​เขา​ไป และ​ซ่อน​พระ‍องค์​ให้​พ้น​จาก​พวก​เขา

ความ​ไม่​เชื่อ‍ถือ​ของ​พวก​ยิว

37. ถึง​แม้​ว่า​พระ‍องค์​ได้​ทรง​กระ‌ทำ​หมาย​สำ‌คัญ​หลาย​ประ‌การ​ที​เดียว​ให้​เขา​เห็น เขา​ทั้ง‍หลาย​ก็​ยัง​ไม่​วาง‍ใจ​ใน​พระ‍องค์

38. ทั้ง‍นี้​เพื่อ​จะ​สำ‌เร็จ​ตาม​คำ​ของ​อิส‌ยาห์​ผู้​เผย​พระ‍วจนะ​ซึ่ง​ว่า “พระ‍องค์​เจ้า‍ข้า ผู้‍ใด​จะ​เชื่อ​สิ่ง​ที่​เรา​ได้​ประ‌กาศ และ​พระ‍กร​ของ​พระ‍เจ้า​ได้​ทรง​สำ‌แดง​แก่​ผู้‍ใด”

39. ฉะนั้น​พวก​เขา​จึง​เชื่อ​ไม่‍ได้ เพราะ​อิส‌ยาห์​ได้​กล่าว​ไว้​อีก​ว่า

40. “พระ‍องค์​ได้​ทรง‍ปิด​ตา​ของ​เขา​ทั้ง‍หลาย และ​ทำ​ใจ​ของ​เขา​ให้​มืด‍มัว​ไป เกรง‍ว่า​เขา​จะ​เห็น​ด้วย​ตา​ของ​เขา และ​เข้า‍ใจ​ด้วย​จิต‍ใจ​ของ​เขา และ​หัน‍กลับ​มา​ให้​เรา​รัก‌ษา​เขา​ให้​หาย”

41. อิส‌ยาห์​กล่าว​ดัง‍นี้ เพราะ‍ว่า​ท่าน​ได้​เห็น​พระ‍สิริ​ของ​พระ‍องค์ และ​ได้​กล่าว​ถึง​พระ‍องค์

42. อย่าง‍ไร​ก็​ดี​แม้​ใน​พวก​เจ้า‍หน้า‍ที่​เอง​ก็​มี​หลาย​คน​ศรัท‌ธา​ใน​พระ‍องค์ แต่​เขา​ไม่​ยอม​รับ​พระ‍องค์​อย่าง​เปิด​เผย​เพราะ​กลัว​พวก​ฟา‌ริสี เขา​กลัว​ว่า​จะ​ถูก​อเปหิ​ออก​จาก​ธรรม‍ศาลา

43. เพราะ‍ว่า​เขา​รัก​การ​สรร‌เสริญ​ของ​มนุษย์ มาก​กว่า​การ​สรร‌เสริญ​ของ​พระ‍เจ้า

พระ‍ดำ‌รัส​ของ​พระ‍เยซู​เป็น​หลัก​พิพาก‌ษา

44. และ​พระ‍เยซู​ทรง​ประ‌กาศ​ว่า “บรร‌ดา​ผู้​ที่​วาง‍ใจ​ใน​เรา​นั้น หา​ได้​วาง​ใจ​ใน​เรา​เอง​ไม่ แต่​วาง​ใจ​ใน​พระ‍องค์​ผู้​ทรง​ใช้​เรา​มา

45. และ​ผู้​ที่​เห็น​เรา​ก็​เห็น​พระ‍องค์​ผู้​ทรง​ใช้​เรา​มา

46. เรา​เข้า​มา​ใน​โลก​เป็น​ความ‍สว่าง เพื่อ​ทุก‍คน​ที่​วาง‍ใจ​ใน​เรา​จะ​มิ​ได้​อยู่​ใน​ความ​มืด

47. ถ้า​ผู้‍ใด​ได้​ยิน​ถ้อย‍คำ​ของ​เรา​และ​ไม่​กระ‌ทำ​ตาม เรา​ก็​ไม่​พิพาก‌ษา​ผู้‍นั้น เพราะ‍ว่า​เรา​มิ​ได้​มา​เพื่อ​จะ​พิพาก‌ษา​โลก แต่​มา​เพื่อ​จะ​ช่วย​โลก​ให้​รอด

48. ถ้า​ผู้‍ใด​ไม่​ยอม​รับ​เรา​และ​ไม่​รับ​คำ​ของ​เรา ผู้‍นั้น​จะ​มี​สิ่ง​หนึ่ง​พิพาก‌ษา​เขา คำ​ที่​เรา​ได้​กล่าว​แล้ว​นั้น​แหละ​จะ​พิพาก‌ษา​เขา​ใน​วัน​สุด‍ท้าย

49. เพราะ​เรา​มิ​ได้​กล่าว​ตาม​ใจ​เรา​เอง แต่​ซึ่ง​เรา​กล่าว​และ​พูด​นั้น พระ‍บิดา​ผู้​ทรง​ใช้​เรา​มา​พระ‍องค์​นั้น​ได้​ทรง​บัญ‌ชา​ให้​แก่​เรา

50. เรา​รู้​ว่า​พระ‍บัญ‌ชา​ของ​พระ‍องค์​นั้น​เป็น​ชีวิต​นิรันดร์ เหตุ​ฉะนั้น​สิ่ง​ที่​เรา​พูด​นั้น เรา​ก็​พูด​ตาม​ที่​พระ‍บิดา​ทรง​บัญ‌ชา​เรา”