พระคริสตธรรมคัมภีร์ไทย ฉบับอมตธรรมร่วมสมัย

สดุดี 89:35-50 พระคริสตธรรมคัมภีร์ไทย ฉบับอมตธรรมร่วมสมัย (TNCV)

35. เราได้ลั่นวาจาปฏิญาณเป็นคำขาดโดยความบริสุทธิ์ของเราและเราจะไม่มุสาต่อดาวิด

36. คือเชื้อสายของเขาจะดำรงอยู่นิรันดร์และบัลลังก์ของเขาจะยั่งยืนต่อหน้าเราดุจดวงอาทิตย์

37. จะตั้งมั่นคงอยู่ตลอดกาลดั่งดวงจันทร์ซึ่งเป็นพยานที่ซื่อสัตย์ในท้องฟ้า”เสลาห์

38. แต่บัดนี้พระองค์ได้ทรงปฏิเสธและได้เหวี่ยงข้าพระองค์ทิ้งแล้วพระองค์ได้ทรงพระพิโรธอย่างยิ่งต่อผู้ที่ทรงเจิมตั้งไว้

39. พระองค์ได้ทรงยกเลิกพันธสัญญาที่ให้ไว้กับผู้รับใช้ของพระองค์และได้ทรงโยนมงกุฎของเขาลงคลุกฝุ่นให้เป็นมลทิน

40. พระองค์ได้ทรงทลายกำแพงทั้งหมดของเขาและปล่อยให้ที่มั่นของเขากลายเป็นซากปรักหักพัง

41. ทุกคนที่ผ่านไปมาได้ปล้นเขาเขากลายเป็นขี้ปากของเพื่อนบ้าน

42. พระองค์ทรงยกชูมือขวาของปฏิปักษ์ของเขาพระองค์ทรงทำให้เหล่าศัตรูของเขาเปรมปรีดิ์

43. พระองค์ทรงพลิกผันคมดาบของเขาและไม่ได้สนับสนุนเขาในศึกสงคราม

44. พระองค์ทรงยุติความโอ่อ่าตระการของเขาและพลิกคว่ำบัลลังก์ของเขาลงกับพื้น

45. พระองค์ทรงบั่นทอนวัยฉกรรจ์ของเขาและให้เขาต้องอัปยศอดสูเสลาห์

46. ข้าแต่องค์พระผู้เป็นเจ้า อีกนานเท่าใด? พระองค์จะทรงซ่อนพระองค์ตลอดกาลหรือ?อีกนานเท่าใดที่พระพิโรธของพระองค์จะเผาผลาญดุจไฟ?

47. ขอทรงระลึกว่าชีวิตของข้าพระองค์ผ่านไปเร็วเพียงใดพระองค์ทรงสร้างมวลมนุษย์ไว้อย่างเปล่าประโยชน์ยิ่งนัก!

48. ใครเล่าที่อยู่ค้ำฟ้าและไม่ต้องตายหรือใครเล่าที่หนีพ้นอำนาจของหลุมฝังศพได้?เสลาห์

49. ข้าแต่องค์พระผู้เป็นเจ้า ความรักยิ่งใหญ่ในกาลก่อนของพระองค์ซึ่งทรงสัญญาไว้แก่ดาวิดด้วยความซื่อสัตย์ของพระองค์นั้นอยู่ที่ไหน?

50. ข้าแต่องค์พระผู้เป็นเจ้า ขอทรงระลึกว่าผู้รับใช้ของพระองค์ถูกเย้ยหยันเพียงใดและข้าพระองค์ต้องทนกล้ำกลืนคำสบประมาทของประชาชาติทั้งปวงไว้ในใจมากเพียงใด