ฉบับ1971

เลวี‌นิติ 13:9-20 ฉบับ1971 (TH1971)

9. “ถ้า​ผู้‍ใด​เป็น​โรค​เรื้อน​ก็​ให้​พา​เขา​มา​หา​ปุโร‌หิต

10. และ​ให้​ปุโร‌หิต​ตรวจ​ดู​ตัว​เขา ถ้า​มี​บริ‌เวณ​บวม​สีขาว​เกิด​ขึ้น​ที่​ผิว‍หนัง ซึ่ง​ทำ​ให้​ขน​ที่‍นั่น​หงอก และ​มี​เนื้อ​แผล‍สด​ใน​ที่​ที่​บวม​นั้น

11. แสดง​ว่า​เป็น​โรค​เรื้อน​เรื้อ‍รัง​ที่​ผิว‍หนัง ให้​ปุโร‌หิต​ประ‌กาศ​ว่า​เขา​มล‌ทิน อย่า​กัก​ตัว​เขา​ไว้ เพราะ‍ว่า​เขา​เป็น​มล‌ทิน

12. ถ้า​โรค​เรื้อน​นั้น​ลาม​ไป​ตาม​ผิว‍หนัง ตาม​ที่​ปุโร‌หิต​เห็น​ก็​ปรา‌กฏ​ว่า ลาม​ไป​ตาม​ผิว‍หนัง​ทั่ว​ตัว​ผู้‍ป่วย​ตั้ง‍แต่​ศีรษะ​จน​เท้า

13. ปุโร‌หิต​ต้อง​ตรวจ​ดู ถ้า​เรื้อน​นั้น​แผ่​ไป​ทั่ว​ตัว ให้​ปุโร‌หิต​ประ‌กาศ​ว่า เขา​สะอาด​ด้วย​โรค​ของ​เขา​แล้ว​ตัว​ของ​เขา​เผือก เขา​สะอาด

14. ถ้า​มี​เนื้อ​แผล‍สด​ปรา‌กฏ​ขึ้น​มา​เมื่อ‍ไร เขา​ก็​เป็น​มล‌ทิน

15. ให้​ปุโร‌หิต​ตรวจ​ดู​ที่​เนื้อ​แผล‍สด และ​ประ‌กาศ​ว่า​เขา​เป็น​มล‌ทิน เพราะ​เนื้อ​แผล‍สด​นั้น​ทำ​ให้​มล‌ทิน เขา​เป็น​โรค​เรื้อน

16. ถ้า​เนื้อ​แผล‍สด​นั้น​เปลี่ยน​ไป​อีก​กลาย​เป็น​สีขาว ให้​เขา​มา​หา​ปุโร‌หิต

17. และ​ให้​ปุโร‌หิต​ตรวจ​เขา และ​ถ้า​โรค​นั้น​กลาย​เป็น​โรค‍เผือก ให้​ปุโร‌หิต​ประ‌กาศ​ว่า คน​ที่​เป็น​โรค​นั้น​สะอาด เขา​สะอาด

18. “ถ้า​ที่​ร่าง‍กาย​ของ​คน‍ใด​มี​แผล​ฝี​ซึ่ง​หาย​แล้ว

19. ถ้า​ที่​แผล​เป็น​นั้น​มี​สีขาว​บวม​ขึ้น​มา​หรือ​มี​รอย​สี‍แดง​เรื่อๆ​ปรา‌กฏ ก็​ให้​ผู้‍นั้น​ไป​สำ‌แดง​ตัว​ต่อ​ปุโร‌หิต

20. และ​ปุโร‌หิต​จะ​ตรวจ​ดู ถ้า​ปรา‌กฏ​ว่า​ที่​เป็น​นั้น​ลึก​กว่า​ผิว‍หนัง​และ​ขน​ที่ บริ‌เวณ​นั้น​หงอก​ให้​ปุโร‌หิต​ประ‌กาศ​ว่า เขา​เป็น​มล‌ทิน โรค​นั้น​เป็น​โรค​เรื้อน​มัน​พุ​ขึ้น​มา​ที่​แผล​ฝี