ฉบับ1971

เลวี‌นิติ 13:1-10 ฉบับ1971 (TH1971)

1. พระ‍เจ้า​ตรัส​กับ​โม‌เสส​และ​อา‌โรน​ว่า

2. “ถ้า​ผู้‍ใด​เกิด​อา‌การ​บวม​หรือ​พุ​หรือ​ด่าง​ขึ้น​ที่​ผิว‍หนัง แล้ว​ผิว‍หนัง​ของ​เขา​เป็น​เรื้อน ก็​ให้​พา​ผู้‍นั้น​มา​หา​อา‌โรน​ปุโร‌หิต หรือ​มา​หา​บุตร​คน‍หนึ่ง​คน‍ใด​ของ​เขา​ที่​เป็น​ปุโร‌หิต

3. ให้​ปุโร‌หิต​ตรวจ​ผิว‍หนัง​ตรง​ที่​เป็น​โรค ถ้า​ขน​ใน​ที่​นั้น​หงอก​และ​เห็น​ว่า​โรค​นั้น​อยู่​ลึก​กว่า​ผิว‍หนัง​ลง​ไป นับ​ว่า​เป็น​โรค​เรื้อน เมื่อ​ปุโร‌หิต​ตรวจ​เขา​เสร็จ​แล้ว​ให้​ประ‌กาศ​ว่า เขา​เป็น​มล‌ทิน

4. ถ้า​ผิว‍หนัง​ตรง​ที่​ป่วย​นั้น​ขาว และ​ปรา‌กฏ​ว่า​กิน​ไม่​ลึก​ไป‍กว่า ผิว‍หนัง​และ​ขน​ใน​บริ‌เวณ​นั้น​ก็​ไม่​หงอก ให้​ปุโร‌หิต​กัก​ตัว​ผู้‍ป่วย​ไว้​เจ็ด​วัน

5. และ​ให้​ปุโร‌หิต​ตรวจ​เขา​อีก​ใน​วัน​ที่​เจ็ด ถ้า​ตาม​สาย‍ตา​ของ​เขา​เห็น​ว่า โรค​นั้น​ทรง​อยู่​ไม่​ลาม​ออก‍ไป​ใน​ผิว‍หนัง ก็​ให้​ปุโร‌หิต​กัก​ตัว​เขา​ต่อ‍ไป​อีก​เจ็ด​วัน

6. พอ​ถึง​วัน​ที่​เจ็ด​ให้​ปุโร‌หิต​ตรวจ​เขา​อีก​ครั้ง​หนึ่ง ถ้า​บริ‌เวณ​ที่​ป่วย​นั้น​จาง​ลง และ​โรค​มิ‍ได้​ลาม​ออก‍ไป​ใน​ผิว‍หนัง ก็​ให้​ปุโร‌หิต​ประ‌กาศ​ว่า เขา​สะอาด​แล้ว เขา​เป็น​โรค‍พุ​เท่า‍นั้น ให้​เขา​ซัก​เสื้อ‍ผ้า​แล้ว​เขา​ก็​จะ​สะอาด​ได้

7. แต่​ถ้า​หาก​ว่า​ภาย‍หลัง​จาก​ที่​เขา​สำ‌แดง ตัว​แก่​ปุโร‌หิต​เพื่อ​รับ​การ​ชำระ​แล้ว​นั้น ปรา‌กฏ​ว่า​บริ‌เวณ​ที่​พุ​ลาม​ออก‍ไป​ใน​ผิว‍หนัง เขา​ต้อง​กลับ​ไป​หา​ปุโร‌หิต​อีก

8. ให้​ปุโร‌หิต​ทำ​การ​ตรวจ ถ้า​บริ‌เวณ​พุ​ลาม​ออก‍ไป​ใน​ผิว‍หนัง ก็​ให้‍ปุโร‌หิต​ประ‌กาศ​ว่า เขา​เป็น​มล‌ทิน เขา​เป็น​โรค​เรื้อน

9. “ถ้า​ผู้‍ใด​เป็น​โรค​เรื้อน​ก็​ให้​พา​เขา​มา​หา​ปุโร‌หิต

10. และ​ให้​ปุโร‌หิต​ตรวจ​ดู​ตัว​เขา ถ้า​มี​บริ‌เวณ​บวม​สีขาว​เกิด​ขึ้น​ที่​ผิว‍หนัง ซึ่ง​ทำ​ให้​ขน​ที่‍นั่น​หงอก และ​มี​เนื้อ​แผล‍สด​ใน​ที่​ที่​บวม​นั้น